วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552

The Lord of the Rings 1 : The Fellowship of the Ring


โฟรโด แบ็กกิ้นส์ เป็นฮ้อบบิทส์หนุ่ม ที่มีอายุราว ๆ ยี่สิบปี เขามีผมสีน้ำตาลเป็นลอน และมีใบหน้าที่ชาญฉลาดและมีเสน่ห์ เหมือนกับฮ้อบบิทโดยทั่วไปในเมืองไชร์ รูปร่างของเขาค่อนข้างแคระแกร็น เมื่อเทียบกับมาตรฐานของพวกเรา ความสูงของเขาประมาณสามฟุตหกเท่านั้น สิ่งเดียวที่เขาไม่เหมือนกับเพื่อนของเขา แซมไว้ส แกมกี้ ผู้รักสงบก็คือ โฟรโดปรารถนาอยู่ตลอดเวลาว่าสักวันหนึ่งเขาจะออกจากบ้านเกิดของเขา ซึ่งเป็นหุบเขาที่สุขสงบไปสู่โลกกว้างที่เต็มไปด้วยภูเขา หุบเขา ทุ่งหญ้า แม่น้ำ ซึ่งครอบคลุมมัชฌิมโลก ทั้งหมด ด้วยความที่เขามีความคิดที่ประหลาดเช่นนี้นี่เอง จึงทำให้โฟรโดแตกต่างจากฮ้อบบิทโดยทั่วไป

วันหนึ่งโฟรโดได้ให้การต้อนรับการมาถึงของ แกนดัล์ฟเดอะเกรย์ ซึ่งเป็นพ่อมดที่มีอำนาจมากที่สุดในมัชฌิมโลก ภายหลังจากงานวันเกิดฉลองครบรอง 111 ปีของ บิลโบ แบ้กกิ้นส์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของโฟรโด เขาต้องมีอันต้องประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำพูดของแกนดาล์ฟที่ว่าชายชราได้ออกไปจากเมืองไชร์แล้ว และได้ทิ้งสมบัติทุกชิ้นให้แก่โฟรโด ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็รวมถึงแหวนธรรมดาวงหนึ่ง

แกนดาล์ฟตระหนักดีว่าแหวนวงนี้ไม่ธรรมดาและได้กล่าวกับ โฟรโด้ว่า "จงเก็บเป็นความลับ และจงรักษาให้ปลอดภัย" ซึ่งในเวลาเดียวกันแกนดาล์ฟเองก็พยายามศึกษาแหวนวงนี้ไปด้วย หลังจากนั้นโฟรโด้ก็ได้กลับไปพักผ่อนร่วมสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ ฮ้อบบิทส์ด้วยกันก่อนที่จะกลับมาถึงบ้าน พบว่าแกนดาล์ฟได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ด้วยลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แกนดาล์ฟบอกกับโฟรโดว่าแหวนวงนี้ไม่ธรรมดา แต่เป็นอาวุธของอำนาจชั่วร้ายและปิศาจที่น่ากลัว เพราะแหวนวงนี้หลอมขึ้นโดยดาร์คลอร์ดซอรอน และเป็นแหล่งพลังชีวิตของมัน กล่าวกันว่าแหวนวงนี้จะทำให้มันมีอำนาจมากพอ ที่จะพลิกชะตาของโลกให้กลับไปสู่ยุคมืดครั้งที่สองได้

ด้วยความรีบเร่ง แกนดาล์ฟได้บอกให้โฟรโดและแซมนำแหวนวงนี้ไปเก็บไว้ที่เอลวิช อันเป็นที่ซ่อนแห่งริเวนเดล โดยในขณะเดียวกัน แกนดาล์ฟเองก็พยายามขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เก่าของเขา ผู้มีนามว่าพ่อมดซารูแมน

ก่อนที่ฮ้อบบิทหนุ่มทั้งสองจะเดินทางออกจากเมืองไชร์ ทั้งโฟรโด้และแซมได้พบกับเมอร์รี่และพิพพินเพื่อนวัยเยาว์ของพวกเขา ซึ่งขอร่วมเดินทางตามไปด้วย แล้วไม่นานนักพวกเขาก็ต้องพบกับปิศาจเป็นครั้งแรก มันเป็นพวกริงก์เรท ซึ่งเป็นสมุนของดาร์คลอร์ด อย่างไรก็ตามโชคดีพวกฮ้อบบิทสามารถหลุดพ้นจากการไล่ล่าของพวกมันมาได้ แต่หนีได้ไม่เท่าไหร่พวกเขาก็ต้องพบกับเรทอีกกลุ่มหนึ่ง พวกมันเป็นสมุนรับใช้ทั้งเก้าของซอรอน รูปร่างของมันคล้ายผี และมีชีวิตอย่างถาวรในโลกที่สุกสกาวแห่งดวงตาของซอรอน

ในขณะเดียวกันแกนดาล์ฟได้มาถึงไอเซนการ์ด อันเป็นที่มั่นของพ่อมด ซารูแมนเดอะไว้ท์ ที่นั่นเขาพบว่าเพื่อนเก่าของเขารวมถึงอาจารย์ของเขาตกเป็นทาสของปิศาจร้าย เสียแล้ว

ระหว่างที่แกนดาล์ฟถูกจองจำในหอคอยออร์แทงค์ของซารูแมน โฟรโด้ แซม เมอร์รี่ และ พิพพิน ก็พาตัวเองเข้าไปหลบซ่อนในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า บรี อย่างปลอดภัย ที่โรงเตี๊ยม Prancing Pony พวกเขาได้พบกับชายลึกลับที่มีชื่อว่าสไตรเดอร์ เขาได้บอกกับฮ้อบบิทส์ว่าพวกเขาควรเดินทางออกจากเมืองบรีให้เร็วที่สุด พร้อมกันนั้นได้เสนอตัวที่จะพาพวกเขาไปยังริเวนเดล

ระหว่างทางสไตรเดอร์พยายามที่เลี่ยงใช้เส้นทางถนน โดยเขานำพวกฮ้อบบิทส์เดินทางไปตามเส้นทางอันตรายแทน แม้ว่าจะคอยระวังอยู่ตลอดเวลา แต่สไตรเดอร์ก็พลัดหลงกับพวกฮ้อบบิทส์ครั้งหนึ่งระหว่างอยู่บนยอดสุงสุดของ Weathertop ทิ้งให้พวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของหอคอยที่ถูกละทิ้ง เป็นโอกาสให้พวกริงก์แรทโผล่มาทำร้ายโฟรโด้และพรรคพวกทันที อย่างไรก็ตามโชคดีที่สไตรเดอร์ตามมาเจอพอดี พวกริงก์แรทจึงหายตัวไป ผลจากการโจมตีครั้งนั้นทำให้โฟรโด้บาดเจ็บสาหัส

ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ในหอคอยซารูแมน แกนดาล์ฟได้ขอความช่วยเหลือจากกวาเฮียร์ ผู้ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งอินทรีย์ให้พาหนีก่อนที่ซารูแมนจะทำอันตรายต่อเขา มากกว่านี้

เช้าวันต่อมาโฟรโดพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่ง ในเมืองริเวนเดล โดยมีแกนดาล์ฟนั่งอยู่ข้างเตียงและมีสไตเดอร์นั่งอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นเราได้ทราบความจริงอีกประการหนึ่งว่าสไตรเดอร์เป็นเพียงแค่นามแฝง เท่านั้น ชื่อจริงของเขาคือ อรากอน ผู้ซึ่งสืบสันตติวงศ์จากกษัตริย์โบราณ

ในช่วงเวลาเดียวกันผู้แทนจากดินแดนในโลกแถบกลาง ได้มาชุมนุมกันที่เมืองริเวนเดลเพื่อประชุมสภากัน โดยมีจุดประสงค์เพื่ออภิปรายถึงอนาคตของแหวน บทสรุปของการประชุมโดย ลอร์ดแห่งเอลฟส์ ออกมาว่าแหวนวงนี้จำต้องถูกทำลาย และการทำลายจะสัมฤทธ์ผลก็ต่อเมื่อแหวนวงนี้ถูกนำไปโยนลงในหุบเขามรณะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของอาณาจักรของดาร์คลอร์ด ที่มีชื่อว่า มอร์ดอร์ เท่านั้น

อย่างไรก็ตามภารกิจนี้มิได้กระทำกันง่ายๆ เพราะกล่าวกันว่าผู้ใดก็ตามที่สัมผัสแหวน ต้องมีอันเป็นไปทุกราย อย่างไรก็ตามสำหรับพวกฮ้อบบิทส์ซึ่งมีจิตใจที่อ่อนโยนแล้ว อำนาจชั่วร้ายแทบไม่สามารถทำร้ายพวกเขา เมื่อเป็นดังนั้นผู้ที่เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งจึงเป็นใครไม่ได้นอกจาก โฟรโด้

ในช่วงเวลาที่โฟรโด้อาสาที่จะนำแหวนไปยังอาณาจักรมอร์ดอร์ นี่เอง ชายอีกแปดคนได้อาสาตามไปช่วยเขาด้วย บุคคลเหล่านี้ประกอบด้วย โบโรเมีย บุตรชายแห่งสจ๊วดแห่ง กอนดอร์ ลีโกลาส เอล์ฟ แห่งอาณาจักรเมิร์กวู้ด กิมลิ ชายแคระ แกนดาล์ฟ พ่อมด อรากอน และแน่นอน แซม เมอร์รี่ และพิพพิน เอลดรอนให้สมญานามอาสาสมัครทั้งเก้าว่า พันธมิตรแห่งแหวน หรือ The Fellowship of the Ring

พันธมิตรทั้งหมดได้ออกจากริเวนเดลพร้อมกับซอรอนและซารูแมน ระหว่างพวกเขาต้องผจญกับอันตรายมากมาย แต่ไม่มีภัยใดที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมที่รุนแรงเท่ากับที่เมืองคนแคระที่ ชื่อ มอเรีย ที่นั่นพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบาร์ล็อก อสูรร้ายแห่งไฟ และแกนดาล์ฟได้แสดงวีรกรรมด้วยการยอมต่อสู้จนตัวตาย เพื่อให้พันธมิตรที่เหลือมีชีวิตรอดเพื่อดำเนินจุดมุ่งหมายต่อไป

ผลจากการสูญเสียแกนดาล์ฟ ทำให้พันธมิตรต้องเสียขวัญ โดยเฉพาะโฟรโด้เริ่มสงสัยแล้วว่าบางทีอานุภาพชั่วร้ายของแหวนเริ่มส่งผลเลว ร้ายต่อเพื่อนๆ ของเขาแล้ว

แล้วก็เป็นจริงเมื่อโบโรเมียร์แห่งกอนดอร์พยายามที่จะใช้ กำลังแย่งแหวนจากโฟรโด แต่โฟรโดก็หนีมาได้ พร้อมกับการตัดสินใจที่สร้างความแสลงใจแก่เขามาก ด้วยพันธะที่มีอยู่ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินทางไปยังอาณาจักรมอร์ดอร์แต่เพียงผู้ เดียว

ในช่วงเวลานั้นเองเหล่าพันธะมิตรได้ถูกทำร้ายโดยอำนาจชั่ว ร้ายของซารูแมน ผลจากการโจมตีทำให้พันธมิตรต้องสูญเสียโบโรเมียไปอีกคน เขาตายเพราะปกป้องชีวิตของเมอร์รีกับพิพพิน ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ตกเป็นเชลยของออร์คส

ระหว่างที่หนีการไล่ล่า แซมได้พบกับโฟรโด้ซึ่งกำลังพายเรือข้ามทะเลสาบ เขาได้ขอให้โฟรโด้พาไปด้วย ส่วนอรากอน แทนที่จะออกเดินทางตามโฟรโด้และแซม เขากับพรรคพวกที่เหลือกลับตัดสินใจตามไปช่วยเหลือเมอร์รีและพิพพิน เมื่อเป็นดังนี้ภารกิจในการนำแหวนไปทำลายจึงตกอยู่กับสองฮ้อบบิท โฟรโด้กับแซมเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น